คำค้นหายอดนิยม
ต้นกำเนิดกาแฟ
เรื่องราวของเนสกาแฟ
3
นาที read
NESCAFÉ® จำหน่ายบนชั้นวางและเคาน์เตอร์ทั่วโลก เป็นแบรนด์ที่รวบรวมแรงบันดาลใจและเชื่อถือในคุณภาพได้ ซึ่งคุณสามารถกลับมาดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อใช้เวลาช่วงเช้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ว่าจะมีเพื่อนหรือไม่มีเพื่อนก็ตาม แทบจะเหมือนกับว่า NESCAFÉ® อยู่ตรงนั้นเป็นเพื่อนคุณเสมอมา เราพร้อมที่จะส่งมอบรสชาติอันเข้มข้นที่เป็นที่รู้จักและชื่นชอบไปทั่วโลก เราเชื่อว่าประวัติศาสตร์ของ NESCAFÉ® จะสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ให้คุณได้พอ ๆ กับกาแฟดี ๆ สักแก้ว
กาแฟสำเร็จรูป
เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1929 เมื่อ Louis Dapples ประธานคณะกรรมการบริหารของ Nestlé ได้รับคำขอพิเศษจากบราซิล เพื่อรับมือกับกาแฟส่วนเกินจำนวนมหาศาลในประเทศ มีการเสนอให้เนสท์เล่สร้างผลิตภัณฑ์กาแฟที่ผลิตได้รวดเร็วและยังช่วยลดปริมาณของเสียที่ไม่จำเป็นจากการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟของบราซิลอีกด้วย
ในตอนแรก แนวคิดคือการผลิตกาแฟเม็ดทรงลูกบาศก์ ซึ่งต้องใช้น้ำร้อนในการชงกาแฟทันที อย่างไรก็ตาม หลังจากการค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษารสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ได้ ซึ่งหมายความว่ารูปแบบแท็บเล็ตไม่สามารถคงรสชาติได้ เมื่อแนวคิดนี้ถูกตัดออกไป นักเคมี Max Morgenthaler จึงกลับมาที่กระดานวาดภาพอีกครั้ง
Legal: ตรงแท็บแล็ตนั้นควรเป็นลูกบาศก์หรือไม่
จุดเริ่มต้นของแบรนด์เนสกาแฟ
มอร์เกนธาเลอร์มีแนวคิดที่จะสร้างผงกาแฟแทนที่จะเป็นลูกบาศก์ และเขาค้นพบว่ารสชาติของกาแฟจะคงอยู่ได้ดีที่สุดเมื่อเติมคาร์โบไฮเดรตลงในผลิตภัณฑ์ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับเมล็ดกาแฟมากกว่า หลังจากการพัฒนาอย่างพิถีพิถันเป็นเวลา 7 ปี กาแฟละลายน้ำนี้ได้เปิดตัวในสวิตเซอร์แลนด์ภายใต้ชื่อ NESCAFÉ® ซึ่ง ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้รับความนิยมในทันที โดยขายหมดภายในเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น
ภายในปี 1940 เนสกาแฟถูกจำหน่ายใน 30 ประเทศ ในทุกทวีป และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ NESCAFÉ® และยังมีการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นยังรออยู่ข้างหน้า
ในช่วงต้น ค.ศ.2000 เริ่มต้นการเป็นแบรนด์กาแฟที่ยั่งยืน ด้วยการริเริ่มทำสัญญาการค้าในปี ค.ศ. ซึ่งเป็นแบรนด์ดกาแฟแรกของโลก
การแข่งขันของตลาดกาแฟ
ท่ามกลางการระบาดของสงครามโลกครั้งที่ 2 กาแฟสำเร็จรูป เนสกาแฟ ได้รวมอยู่ในอาหารฉุกเฉินของทหารสหรัฐฯ ทุกคน เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2488 NESCAFÉ® ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในแพ็คเกจ CARE สำหรับประชากรที่ต้องการความช่วยเหลือทั่วยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของเนสกาแฟ
การเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง
เป็นเรื่องปกติที่การทำธุรกิจจะมีคู่แข่ง เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะก้าวนำหน้า ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นทศวรรษ
1950 มีการค้นพบว่าคาร์โบไฮเดรตที่ปกป้องรสชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้พบในสารละลายกลูโคส โดยสามารถสกัดได้จากเมล็ดกาแฟโดยตรง ส่งผลให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของบรรจุภัณฑ์
คริสต์ทศวรรษ 1960 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ NESCAFÉ® โดยเริ่มต้นจากความเจริญทางเศรษฐกิจในทศวรรษที่มีการนำกระบวนการผลิตที่ได้รับการกลั่นกรองมาใช้ จากนั้นในปี 1962 กระป๋องแบบดั้งเดิมก็หมดไป โดยแบรนด์เลือกใช้ขวดแก้วที่มีความทนทานมากขึ้น ช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 60 ก็เต็มไปด้วยการพัฒนาใหม่ๆ เช่นกัน โดย NESCAFÉ® GOLD เปิดตัวในยุโรปในปี พ.ศ. 2508 ผลิตภัณฑ์อร่อยที่ชนะใจนักดื่มกาแฟจำนวนมากยิ่งขึ้น จากนั้นในปี พ.ศ. 2509 สูตรก็ได้พัฒนาจากผงเป็นเม็ด และในปี พ.ศ. 2510 ได้มีการเปิดตัวแก้วมัคสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ NESCAFÉ®
นับตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนศตวรรษเป็นต้นมา NESCAFÉ® มุ่งหน้าอยู่กับการผลิตกาแฟด้วยวิธีที่ยั่งยืนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะนี้แบรนด์กำลังเดินทางสู่ปี 2030 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้กาแฟที่มาจากแหล่งที่มีความรับผิดชอบแบบ 100% และ 50% มาจากวิธีเกษตรกรรมแบบปฏิรูป
บทความที่ได้รับความนิยมวันนี้
ค้นหาบทความที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
