คำค้นหายอดนิยม
You are signed out
การเกษตรเชิงฟื้นฟู และ เนสกาแฟ

เนสกาแฟกับเส้นทางแห่งความยั่งยืนในวงการกาแฟไทย ผ่านการเกษตรเชิงฟื้นฟู

 3 นาที read
ก่อนที่แก้ว Nescafé® แสนอร่อยของคุณจะถูกชงจากเมล็ดกาแฟคั่วสด มันถูกเก็บมาจากผลของต้นไม้ทางซีกโลก ทุกๆ วันเมล็ดกาแฟมากมายมาถึงสถานที่คั่ว Nescafé® ทุกเมล็ดมีเรื่องราวของตัวเอง ซึ่ง Nescafé® ต้องการให้แน่ใจว่าเรื่องราวนั้นเกี่ยวกับความยั่งยืน หากเมล็ดกาแฟสามารถพูดคุยได้ เราก็อยากจะได้ยินทุกสิ่งที่พวกเขาพูด
regenerative agriculture & coffee

จุดเริ่มต้นของการเพาะปลูกกาแฟสู่ความยั่งยืน

การเกษตรเชิงฟื้นฟูคือ การปลูกกาแฟควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของโครงการระดับโลก "เนสกาแฟ แพลน 2030" โดยเนสกาแฟยึดหลักปฏิบัติการเกษตรเชิงฟื้นฟู เพื่อเดินหน้าสร้างความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดยเราให้ความสำคัญตั้งแต่การเพาะปลูกกาแฟ จนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เนสกาแฟมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบกาแฟคุณภาพให้กับชาวไทยและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมกาแฟในประเทศไทยต่อไป
nescafé responsible sourced coffee

เนสกาแฟยึดมั่นในหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู

เนสกาแฟเดินหน้าขับเคลื่อนหลักเกษตรเชิงฟื้นฟู ในสวนกาแฟ (Regenerative Agriculture) ด้วยแนวทางปฏิบัติในการปกป้องความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ เพื่อฟื้นฟูความหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ เนสกาแฟตั้งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปพร้อมกับ การรักษาความสมดุลให้ธรรมชาติ ทำให้เรายังคงเดินหน้าคิดค้น วิจัย และพัฒนา เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้นสม่ำเสมอ ตั้งแต่พื้นที่เพาะปลูก การคัดสรรพันธุ์กาแฟที่เหมาะสม การจัดการกากกาแฟหลังกระบวนการผลิต จนได้ออกมาเป็น กาแฟสำเร็จรูป "เนสกาแฟ" ที่เรียกได้ว่าบริสุทธิ์ 100% พร้อมให้คุณดื่มด่ำกับความหอมกลมกล่อมได้ทุกวัน
nescafé responsible sourced coffee

ภายในปี 2030 เนสกาแฟตั้งเป้าที่จะเข้าถึงกาแฟที่ผ่านมาตรฐานความยั่งยืน 100% เพื่อสนับสนุนสภาพการทำงานที่ดีขึ้นสำหรับเกษตรกรและครอบครัว เพื่อปลูกพืชผลอย่างยั่งยืน


100% responsible sourced coffee

การดูแลจัดการทรัพยากรด้วยการเกษตรเชิงฟื้นฟูอย่างยั่งยืน

เนสกาแฟประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน 100% เมล็ดกาแฟทุกเม็ดที่เนสกาแฟรับซื้อจากเกษตรกรในประเทศไทย ได้รับการรับรองมาตรฐาน 4C (Common Code for the Coffee Community) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล โดยวิถีของเนสกาแฟในการทำเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูนั้น ทำให้เราได้ผลลัพธ์คือ เมล็ดกาแฟเติบโตอย่างสมบูรณ์ เหมาะกับการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง

การปลูกกาแฟร่วมกับป่า : สร้างร่มเงาให้ต้นกาแฟ เพิ่มการดูดซับคาร์บอน

การปลูกพืชผสมผสาน : เพื่อส่งเสริมความหลากหลาย ทางชีวภาพ ผลลัพธ์คือผลผลิตหลากหลายประเภท

การปลูกพืชคลุมดิน : เพื่อปกป้องดิน รักษาธาตุอาหารในดิน และเพิ่มความสมบูรณ์ของดิน โดยการปลูกหญ้าเป็นชั้นหนาเพื่อคลุมหน้าดินเอาไว้ ซึ่งจะช่วยป้องกันการกัดเซาะ การสูญเสียความชื้นและสารอาหารจากความร้อนของแสงแดด

การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี : เพื่อส่งเสริมการใช้กากกาแฟ ช่วยหมุนเวียนธาตุอาหารในดิน และยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย

การกระจายต้นกล้าพันธุ์ดี : เพื่อส่งเสริมการแจกจ่ายต้นกล้าพันธุ์ดีให้แก่เกษตรกร

Nescafe

เนสกาแฟให้ความเคารพและตระหนักถึงความสำคัญของเกษตรกร

นอกเหนือจากความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ในการทำเกษตรเชิงฟื้นฟูแล้ว เนสกาแฟยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวไทยของเราอย่างสุด ความสามารถเพื่ออนาคตที่ดีของทุกคน ผ่านการฝึกอบรมให้แก่พี่น้องเกษตรกรมาแล้ว เกือบ 1 ล้านครั้งในทุกภูมิภาค เพื่อให้เหล่าเกษตรกร ได้นำความรู้ไปพัฒนาไร่กาแฟจากรุ่นสู่รุ่น จนได้ผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูง สามารถผลิตกาแฟได้อย่างสม่ำเสมอ และสามารถเพิ่มปริมาณได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นวิถีแห่งการผลิตกาแฟที่ยั่งยืนในที่สุด
Nescafe
NESCAFÉ® sustainability

ค้นหาบทความเพิ่มเติมได้ที่